Articles List

Mathematics

Published:

ทำไมการเปลี่ยนใจถึงมีโอกาสชนะมากกว่า? (Monty Hall problem)

Header Image

Shiroronekonene

Last updated:

Header Image
ด้วยความที่ช่วงนี้มีความสนใจเกี่ยวกับ paradox ทางคณิตศาสตร์และสถิติมากพอสมควร จึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลและเขียนบทความนี้ขึ้นมา ให้ผู้อ่านได้รับชมกันครับ :D

Monty Hall problem หรือ ปริศนามอนตี ฮอลล์ เป็นปริศนาทางความน่าจะเป็น โดยปริศนามาจากชื่อพิธีกรในรายการโทรทัศน์หนึ่งของอเมริกาที่มีชื่อว่า Let's Make a Deal ซึ่งเป็นเกมโชว์ทางโทรทัศน์จากสหรัฐอเมริกา ออกอากาศครั้งแรกในปี 1963 และมีพิธิกรที่ชื่อ "มอนตี ฮอลล์" เป็นผู้ดำเนินรายการ

ในรายการผู้เข้าแข่งขันจะได้เลือกประตูหนึ่งในสามบาน โดยมีรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์อยู่ข้างหลังประตูเพียงบานเดียว ส่วนอีกสองบานมีแพะอยู่ มอนตี ฮอลล์ในฐานะพิธีกรซึ่งรู้คำตอบ จะเปิดประตูที่ไม่ได้ถูกเลือกและมีแพะอยู่เสมอ แล้วจึงถามผู้เข้าแข่งขันว่าจะเปลี่ยนใจเลือกประตูที่ยังปิดอยู่หรือไม่ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

image
มีประตูอยู่สามบาน มีเพียงบานเดียวที่มีรางวัล (รถยนต์) อยู่ข้างหลัง อีกสองบานที่เหลือเป็นแพะ ในฐานะผู้เล่นจะต้องเลือกประตูบานใดบานหนึ่ง
image
พิธีกรที่รู้ว่าแพะอยู่ประตูบานไหนบ้าง ก็ได้เปิดประตูบานหนึ่งที่มีแพะ แล้วพิธีกรก็จะถามเราว่าจะเปลี่ยนใจไปเลือกประตูอีกบาน (บานที่สาม) หรือไม่?

ปริศนานี้กลายเป็น ประเด็นถกเถียงระดับประเทศ ในสหรัฐฯ หลังจากปรากฏในคอลัมน์ของนิตยสารชื่อว่า "Ask Marilyn" ในนิตยสาร Parade ผู้เขียนคอลัมน์คือ Marilyn vos Savant เธอเป็นหญิงสาวที่ได้ชื่อว่ามี IQ สูงที่สุดในโลก (เคยลง Guinness Book) มีคนส่งคำถามเรื่อง Monty Hall ไปถามเธอ

"ถ้าผมเลือกประตู แล้วพิธีกรเปิดอีกประตูที่ไม่มีรางวัล ผมควรเปลี่ยนใจไหม?"
คำตอบของเธอคือ:
"ควรเปลี่ยน โอกาสชนะจะเพิ่มจาก 1/32/3"
image

คอลัมน์ "Ask Marilyn" โดย Marilyn vos Savant ที่ตอบคำถามเกี่ยวกับปริศนามอนตี ฮอลล์

แต่หลังจากที่ Marilyn vos Savant ตอบคำถามนี้ในปี 1990 ก็ได้มีจดหมายกว่า 10,000 ฉบับเข้ามาโต้แย้งเธอ แม้คำตอบของเธอจะถูกต้องตามหลักคณิตศาสตร์ก็ตาม แม้แต่นักคณิตศาสตร์ระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ยังโต้แย้งว่าโอกาสชนะมันควรเป็น 1/2

ปริศนามอนตี ฮอลล์ จึงกลายเป็นตัวอย่างคลาสสิกของ “paradox” ที่ความรู้สึกขัดสามัญสำนึกและตรรกะทางคณิตศาสตร์ แม้แต่นักคณิตศาสตร์ชื่อดัง Paul Erdős ก็ยังไม่เชื่อจนได้เห็นการทดลองจริง

รู้ได้อย่างไรว่าเป็น 2/3 ไม่ใช่ 1/2?

ก่อนอื่นเลย เพื่อที่จะรู้ค่าความน่าจะเป็นของเหตุการณ์หนึ่ง โดยพื้นฐานเราต้องนำ จำนวนเหตุการณ์ที่สนใจ หารด้วย จำนวนเหตุการณ์ทั้งหมดที่เป็นไปได้ (sample space)

ยกตัวอย่างเช่น การทอยลูกเต๋า เมื่อเราสนใจว่าความน่าจะเป็นที่ทอยได้แต้มที่มากกว่า 4 แต้ม

วิธีคือพิจารณาว่ามีกี่เหตุการณ์ที่จะทอยได้เกิน 4 แต้มบ้าง นั่นคือ {5, 6} เท่ากับ 2 เหตุการณ์
ส่วนจำนวนเหตุการณ์ทั้งหมดคือ {1, 2, 3, 4, 5, 6} เท่ากับ 6 เหตุการณ์
ดังนั้นความน่าจะเป็นคือ 2/6 หรือ 1/3 นั่นเอง

ทีนี้เรามาดูกรณีปริศนามอนตี ฮอลล์กันบ้างว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้เล่นเปลี่ยนใจเสมอ การที่จะนับจำนวนเหตุการณ์ลองพิจารณาดังต่อไปนี้

image

ประตูสามบานที่มีแพะสองตัวกับรถยนต์หนึ่งคัน ผู้เล่นไม่รู้ว่าประตูบานไหนมีอะไรบ้าง

ตอนนี้เรารู้ว่า ประตูสามบานนี้มีแพะสองตัวและรถยนต์อยู่หนึ่งคัน ดังนั้นผลลัพธ์จากการเลือกประตูนั้น มีอยู่สามเหตุการณ์หลัก ๆ คือ

  1. หลังประตูที่ผู้เล่นเลือก คือ แพะตัวแรก
  2. หลังประตูที่ผู้เล่นเลือก คือ แพะตัวที่สอง
  3. หลังประตูที่ผู้เล่นเลือก คือ รถยนต์

ไม่ว่าตำแหน่งของแพะและรถยนต์หลังประตูจะสลับกันอย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นหนึ่งในสามแบบนี้เสมอ ดังนั้น เราจะไม่สนใจการสลับตำแหน่ง (permutation) ของแพะและรถยนต์ แต่จะพิจารณาแค่ผลลัพธ์จากการเลือกของผู้เล่นก็พอ

image

สิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งสามเหตุการณ์หลังจากผู้เล่นเลือกประตู แล้วเปลี่ยนใจ

จากนั้นหลังจากที่ผู้เล่นเลือกแล้ว พิธีกรจะเปิดประตูหนึ่งบานที่มีแพะ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้

  1. หลังประตูที่ผู้เล่นเลือก คือ แพะตัวแรก พิธีกรจะเปิดประตูที่มีแพะตัวที่สอง เมื่อผู้เล่นเปลี่ยนใจจะได้รับรถยนต์
  2. หลังประตูที่ผู้เล่นเลือก คือ แพะตัวที่สอง พิธีกรจะเปิดประตูที่มีแพะตัวแรก เมื่อผู้เล่นเปลี่ยนใจจะได้รับรถยนต์
  3. หลังประตูที่ผู้เล่นเลือก คือ รถยนต์ พิธีกรจะเปิดประตูบานใดบานหนึ่งที่มีแพะ เมื่อผู้เล่นเปลี่ยนใจจะได้รับแพะอีกตัว

จากเหตุการณ์ที่ 1 และ 2 จะทำให้แพะอีกประตูถูกเปิด และประตูสุดท้ายจะต้องเป็นรถยนต์อย่างแน่นอน ดังนั้นการเปลี่ยนประตูจะทำให้ได้รถยนต์

แต่กลับกันหากประตูที่ผู้เล่นเป็นรถยนต์ตั้งแต่แรก แล้วเปลี่ยนใจก็จะได้แพะตัวใดตัวหนึ่งแทน
เนื่องจากการเลือกประตูที่มีแพะในตอนแรกจะส่งผลให้ การเปลี่ยนใจได้รถยนต์ 100% (เพราะพิธีกรเปิดประตูที่มีแพะอีกตัวไปแล้ว) และ ความน่าจะเป็นที่เราจะเลือกโดนแพะในตอนแรกคือ 2/3 ดังนั้น การเปลี่ยนใจจะทำให้มีโอกาสชนะถึง 2/3 แทนที่จะเป็น 1/2 นั่นเอง

สรุป

ดังนั้นแม้ว่าปริศนามอนตี ฮอลล์จะเป็นปริศนาที่ดูเรียบง่าย คำตอบไม่ซับซ้อน แต่เมื่อเราวิเคราะห์โครงสร้างของเหตุการณ์แล้ว ก็พบว่าจะพบว่า “การเปลี่ยนประตู” หลังจากพิธีกรเปิดประตูหนึ่งบานแล้วนั้น ให้โอกาสชนะมากถึง 2 ใน 3 ซึ่งมากกว่าการเลือกประตูเดิมอย่างมาก

และนี่เองคือสิ่งที่ทำให้ "ความน่าจะเป็น" นั้นเป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนและมีเงื่อนไขเยอะ ไม่แปลกเลยว่าทำไมหลายคนถึงยกให้เป็นบทที่เข้าใจยากที่สุดในวิชาคณิตศาสตร์

ความน่าจะเป็น ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดา หรือการใช้สามัญสำนึก บางครั้งสิ่งที่ดูเหมือนจะใช่ อาจจะผิดอย่างสิ้นเชิง ในทางกลับกัน สิ่งที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ กลับเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

Back to Articles List

เข้าร่วม Discord Server ของพวกเราอยู่เพื่อพูดคุยและติดตามข่าวสารต่าง ๆ ภายในชุมชน!